บทคัดย่อ
การวิจัยเกี่ยวกับการโคลนมนุษย์โดยนักวิชาการด้านปรัชญาพระพุทธศาสนาของชาวพุทธจํานวนมากที่ผ่านมา มีความเห็นว่า เข้าข่ายการทําลายชีวิตเพราะมีปฏิสนธิ วิญญาณตั้งแต่การโอนถ่ายนิวเคลียสเข้าไปในไข่ เช่นเดียวกับการที่ไข่กับอสุจิผสมกันข้างนอกในการทําเด็กหลอดแก้วและในการเกิดแบบปกติ หากทําให้เซลล์โคลนเสียไป ในระหว่างกระบวนการการโคลน ส่วนใหญ่จะตอบว่าเป็นการฆ่า แต่ก็มีรายงานการศึกษา ค้นคว้าบางท่านก็มองว่าไม่เป็นการฆ่าเพราะนักวิทยาศาสตร์ไม่ได้เจตนาจะฆ่ามีแต่พยายามที่จะทําให้มีการเกิด ด้วยการใช้แนวความคิดหลักการเกิดในครรภ์ซึ่งมีเงื่อนไข ๓ ข้อว่า มีบิดามารดาอยู่ร่วมกัน มารดามีฤดูคือสามารถตั้งครรภ์ได้ในขณะนั้น และมีสัตว์ มาเกิดในขณะนั้น
บทความนี้ผู้วิจัยได้นําเสนอกระบวนการการทําเด็กหลอดแก้วและกระบวนการการโคลน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ต้องนํามาพิจารณาร่วมด้วยได้แก่ การเพาะเลี้ยงเซลล์ โคลนจนเป็นบลาสโตซิสในหลอดแก้วหรือในจานเพาะเลี้ยงและการแช่แข็ง รวมทั้งนําเสนอองค์ประกอบของมนุษย์คือกายและจิต ตามแนวความคิดหลักการเกิดในครรภ์และกฎเกณฑ์ การวินิจฉัยภาวะการเกิด การตายและการฆ่าสิ่งมีชีวิต
จากการศึกษาพบว่า ประเด็นการเพาะเลี้ยงในหลอดแก้วหรือในจานเพาะเลี้ยง มีระยะเวลาที่จํากัดเพียง ๕-๗ วัน หรือไม่เกิน ๗ วัน เท่านั้น หากเลี้ยงเกินระยะเวลาดังกล่าวแม้จะให้อาหารและอุณหภูมิที่เหมาะสม บลาสโตซิสก็ไม่อาจพัฒนาเป็นเด็กในหลอดแก้วหรือ ในจานเพาะเลี้ยงได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากนําบลาสโตซิสที่เพาะเลี้ยงเกิน ๗ วัน ไปใส่ในมดลูก ก็ไม่สามารถเป็นทารกได้เพราะการฝังตัวในมดลูกด้วยวิธีธรรมชาติมีระยะเพียงไม่เกิน ๗ วัน เท่านั้น
ส่วนประเด็นการแช่แข็งเพื่อเก็บบลาสโตซิสที่เหลือไว้ใช้ต่อ หรือกรณีร่างกายยัง ไม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์ในขณะนั้นแพทย์จะนําบลาสโตซิสเหล่านี้ใส่ในถังไนโตรเจนซึ่งมีอุณหภูมิ -๑๙๖ องศาเซลเซียส เพื่อหยุดกิจกรรมภายในเซลล์ การแช่แข็งสามารถเก็บได้นานเป็น ๑๐ ปี จะเห็นได้ว่ามี ๒ ประเด็นที่มองข้ามไม่ได้คือ อุณหภูมิที่บลาสโตซิสจะเจริญในร่างกายได้มี ประมาณ ๓๗ องศาเซลเซียส และจุดประสงค์ของการแช่แข็งคือการหยุดกิจกรรมภายในเซลล์ ทั้ง ๒ ประเด็นนี้ หากบลาสโตซิสมีปฏิสนธิวิญญาณก็ไม่สามารถดําเนินชีวิตต่อไปได้เพราะ ต้องอดอาหารเป็นระยะเวลาที่นานมาก รวมทั้งอุณหภูมิก็ต่ําเกินกว่ามนุษย์จะอยู่ได้ แต่ที่ บลาสโตซิสยังคงนํามาใช้แม้เวลาจะผ่านไปนานเป็น ปี ก็เพราะสิ่งต่างๆ สามารถเกิดขึ้น ได้เมื่อมีสภาพที่เหมาะสมไม่จําเป็นต้องมีวิญญาณเสมอไป
สําหรับประเด็นการฆ่า เนื่องจากองค์แห่งศีลการฆ่าหรือปาณาติบาตใช้ตัดสินการ ฆ่าสิ่งมีชีวิตที่มีวิญญาณครองเท่านั้น แต่บลาสโตซิสไม่มีวิญญาณครองจึงเท่ากับไม่เป็นการฆ่า