บทคัดย่อ ปัจจัยในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวผู้กระทําความผิดมีความสําคัญในการกําหนดโทษ จําคุกให้มีความเหมาะสมกับตัวผู้กระทําความผิดเป็นอย่างยิ่ง แต่ในทางปฏิบัติยังมีปัญหา เนื่องจากขาดข้อเท็จจริงในส่วนนี้ หรือมีไม่เพียงพอในการนํามาประกอบการพิจารณา กําหนดโทษเป็นราย ๆ ไปในทุกคดี ทําให้การลงโทษผู้กระทําความผิดไม่ก่อให้เกิดผลในการ ป้องกันและควบคุมอาชญากรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัญหาในการนําข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัว ผู้กระทําความผิดมาใช้ในการกําหนดโทษและแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการลงโทษ จําคุก รวมทั้งเพื่อหาแนวทางแก้ไขในการนําข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวผู้กระทําความผิดมาใช้ ประกอบในการกําหนดโทษจําคุกของศาลให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สําหรับวิธีการศึกษาใช้รูปแบบการวิจัยในเชิงคุณภาพโดยอาศัยการวิจัยจาก เอกสารทั้งข้อมูลที่เป็นภาษาไทยและภาษาต่างประเทศที่ปรากฏในรูปแบบของหนังสือ ตํารา ทางวิชาการ รายงานการวิจัย บทความ ระเบียบคําสั่ง ข้อบังคับ คําพิพากษา รวมทั้งแหล่ง ข้อมูลอื่นที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องโดยนําข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์เชิงตรรกะและเปรียบเทียบกับ ระบบกฎหมายและระบบการลงโทษผู้กระทําความผิดของต่างประเทศนํามาสนับสนุน โดย สรุปผลที่ได้เป็นประเด็น ๆ ไป ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัญหาในการนําข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวผู้กระทําความผิด มาใช้ในการกําหนดโทษ ได้แก่ ปัญหาในด้านระบบการค้นหาความจริงเพื่อนําตัวผู้กระทํา ความผิดมาลงโทษและปัญหาในด้านกฎหมาย รวมทั้งปัญหาในด้านระเบียบทางปฏิบัติงาน ของศาล และในด้านคุณลักษณะต่าง ๆ ในตัวผู้พิพากษาเอง ส่วนแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง พบว่าการกําหนดโทษจําคุกจะต้องอาศัยข้อเท็จจริงแห่งคดีและหลักทฤษฎีวัตถุประสงค์ ในการลงโทษมาใช้ประกอบดุลพินิจ โดยนําทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ ในการลงโทษสูงสุด สําหรับแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขเพื่อนําข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัว ผู้กระทําความผิดมาใช้ในการกําหนดโทษจําคุก พบว่ามีแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ในด้านกฎหมายโดยกําหนดให้มีการรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวผู้กระทําความผิดทุกคดี และกําหนดเงื่อนไขให้ผู้พิพากษานํามาประกอบการพิจารณากําหนดโทษด้วย และพบว่า ควรนําระบบการค้นหาความจริงแบบผสม (Mixed System) มาใช้โดยให้พนักงาน สอบสวน พนักงานอัยการและศาล ร่วมกันค้นหาความจริงในด้านข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัว ผู้กระทําความผิดด้วย รวมทั้งพบว่าควรปรับปรุงแก้ไขระเบียบปฏิบัติงานของศาลโดย ปรับปรุงบัญชีระดับอัตราโทษ (ยี่ต๊อก) ให้มีข้อเท็จจริงทั้งสองมิติ ได้แก่ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ พฤติการณ์แห่งคดีและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวผู้กระทําความผิดด้วย ข้อเสนอแนะหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาควรจะต้องมีนโยบายทางอาญาไปในแนวเดียวกันและมีการประสานงานกันอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง รวมทั้ง ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายระเบียบคําสั่งและการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการลงโทษทางอาญามากยิ่งขึ้น

Offender's relevant facts is an important factor for discretion of jail sentence in appropriate with the offender himself. Nevertheless, practically, there had still been some problem in applying those facts to the sentencing of individual case, because of those facts insufficiency as the results have shown that the sentences had not been effective in prevention and control of the crimes. This research is to study the aspects of the problems when applying the offender's relevant facts to determine the sentences and to study the theories and concepts relevant to jail sentencing process, as well as to find the solutions on applying the offenderûs relevant facts for efficient court discretion of jail sentencing. The research methods for using qualitative research through existing documentations containing Thai and foreign information in forms of books, text books, reports, articles, orders, regulations, judgments, including other sources of relevant information. All information is to be integrated for logical analysis in comparison to foreign legal and punishment systems. The results shall be concluded respectively.The research found that the problems occurred while applying the offender's relevant fact in sentencing are, for example, Problems in fact finding system, legal-relevant problems, problems of court practice regulations including problems on characteristics of the judges. For the aspect of relevant concepts and theories, itûs found that jail sentencing requires applying the combination of facts of the case, principles of theory and purposes of sentencing in discretion for ultimate advantage of the punishment. The guidelines for solution on using the offenderûs relevant facts in discretion of jail sentence are found that it legally proper to apply the offenderûs relevant facts in all cases through the Mixed System of fact finding, meaning that the enquiry officers, the prosecutors and the court shall collaborate in fact finding. Itûs also found that courtûs operating regulations should be improved including improvement of Provisions Applicable to General Offences (Yee-Tock) into 2 dimensions; the circumstances of the case and offenderûs relevant facts. The recommendations were that all government agencies and institutions in criminal justice system should lead the criminal policy in the same manner under continual corporation including improving relevant laws, regulations, orders and operation procedures to be more corresponding with the purposes of criminal punishments.