ขั้นตอนเข้าสู่การประกอบวิชาชีพกฎหมายในสหรัฐอเมริกาแตกต่างจากประเทศไทย หลายประการ ตั้งแต่การศึกษาในระดับนิติศาสตรบัณฑิตตลอดจนการสอบเนติบัณฑิต และใบอนุญาตประกอบวิชาชีพกฎหมาย ปริญญานิติศาสตรบัณฑิตในสหรัฐอเมริกาที่เรียกว่า Juris Doctor (J.D.) เป็นวุฒิที่มีระดับสูงกว่าปริญญาตรี (postgraduate degree) กล่าวคือ บุคคลที่จะสมัครเข้าศึกษาในสาขานิติศาสตร์ต้องสําเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษาหรือปริญญาตรีมาก่อน ซึ่งแตกต่างจากระบบการศึกษาของประเทศไทยที่นิสิตนักศึกษาสามารถเข้าเรียนในสาขานิติศาสตร์ได้ด้วยวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลาย นอกจากนี้ การประกอบวิชาชีพ กฎหมายในสหรัฐอเมริกา แตกต่างจากประเทศไทย กล่าวคือ ในสหรัฐอเมริกาไม่ได้กําหนด คุณวุฒิสําหรับวิชาชีพทนายความแยกต่างหากจากคุณวุฒิสําหรับการสอบบรรจุเป็นผู้ช่วย ผู้พิพากษาหรืออัยการผู้ช่วยดังเช่นที่ประเทศไทยกําหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพทนายความต้องมี ใบอนุญาตว่าความ ส่วนผู้สอบบรรจุเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาหรืออัยการผู้ช่วยต้องเป็นเนติบัณฑิตไทย ในสหรัฐอเมริกา ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพกฎหมายไม่ว่าจะในฐานะทนายความ ที่ปรึกษา กฎหมาย พนักงานอัยการ รวมถึงผู้พิพากษา (ในบางมลรัฐ) มีเพียงหนึ่งเดียวคือใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพกฎหมายที่เรียกว่า “Bar” ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่าการสอบ “Bar” ในสหรัฐอเมริกาจึงเป็นทั้งการสอบใบอนุญาตว่าความและเนติบัณฑิตในคราวเดียวกัน ซึ่ง คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครสอบและขอบเขตเนื้อหาข้อสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพกฎหมายในแต่ละมลรัฐมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป บทความนี้จะกล่าวถึงเพียงการ สอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพกฎหมายเฉพาะในมลรัฐนิวยอร์กหรือที่เรียกว่า New York Bar และในมลรัฐแคลิฟอร์เนียหรือที่เรียกว่า California Bar เท่านั้น โดยจะใช้คําว่า “เนติบัณฑิต มลรัฐนิวยอร์ก” และ “เนติบัณฑิตมลรัฐแคลิฟอร์เนีย” แทนคําเรียกใบอนุญาตในการประกอบ วิชาชีพกฎหมายในมลรัฐนิวยอร์ก (New York Bar) และมลรัฐแคลิฟอร์เนีย (California Bar) ตามลําดับ

The practice of law in the United States differs from that in Thailand in many respects from pursuing a law degree to sitting for licensing examinations. In the United States, a law degree (the Juris Doctor or J.D.) is a postgraduate degree. A person who intends to study law must have f ifirst completed a bachelor’s degree prior to applying to law school, which is different from Thailand where one can enter law school immediately after high school. In addition, the legal profession in the United States does not distinguish between the licensing qualifications for becoming a lawyer from those for becoming a judge or for becoming a prosecutor, as is the case in Thailand where lawyers must have a lawyer license and those taking the judicial and prosecutorial examinations must be qualified as barristers at law. In the United States, only a single license-called a bar license-is required to practice law, whether as a lawyer, legal advisor, prosecutor, or (in some states) judge. Each state sets its own qualifications for eligibility to sit for their respective bar exams, and the scope of subject matter in each examination varies by state. In this article, the authors discuss only the bar exams for New York and for California in order to provide information for those who are interested in practicing law in the United States.