จากผลสํารวจพบว่าศาลยุติธรรมมีภาพลักษณ์เป็นองค์กรอิสระที่ประชาชนเชื่อมั่น มากที่สุด แต่การใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างแพร่หลายในปัจจุบันทําให้เกิดข้อสงสัยถึงผล กระทบที่อาจมีต่อภาพลักษณ์ของศาลยุติธรรม เนื่องจากผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์นอกจากจะเป็น ผู้รับสารแล้วยังเป็นผู้ส่งสารในคราวเดียวกัน งานวิจัยจึงศึกษาความคิดเห็นของผู้ใช้สื่อสังคม ออนไลน์โดยทางตรงด้วยการแจกแบบสอบถามความคิดเห็นและวัดเจตคติ และโดยทางอ้อม ด้วยการวิเคราะห์ความรู้สึกและอคติทางปัญญาผ่านข้อความตามคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กเพจ ของสํานักข่าวที่ได้รับความนิยมสูงสุด ๒ สํานัก ภายในขอบเขตของข่าวที่เกี่ยวข้องกับ ศาลยุติธรรมรวม ๗ ข่าว ผลการศึกษาโดยวิธีทางตรงพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความเข้าใจ เบื้องต้นเกี่ยวกับศาลยุติธรรมอยู่ในเกณฑ์ดี แต่มีคนจํานวนไม่มากที่ทราบข้อมูลความคืบหน้า ของศาลยุติธรรม สิ่งที่มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของศาลยุติธรรมมากที่สุด คือข่าวรวมถึงข้อมูลที่รับรู้จากในอดีตเกี่ยวกับศาลยุติธรรม ผู้อ่านข่าวจากสื่อสังคมออนไลน์ ส่วนใหญ่มักจะไม่อ่านคอมเมนต์ของผู้อื่นหรือหากอ่านก็เพียงเพื่อศึกษากระแสสังคมเท่านั้น ส่วนผลการศึกษาโดยวิธีทางอ้อมในคอมเมนต์จะวิจารณ์ที่การกระทําของตัวบุคคลหรือ องค์กรศาลที่เป็นประเด็นหลักในข่าวจึงมักไม่พบความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับศาลยุติธรรมเท่าใดนัก ในข่าวที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาพิพากษา แต่เรื่องเกี่ยวกับผู้พิพากษาบางเรื่องหรือ องค์กรศาลยุติธรรมที่ตกเป็นประเด็นหลักของข่าวจะมีคนวิจารณ์ถึงศาลยุติธรรมมากที่สุด จึงทําให้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของศาลยุติธรรม ส่วนอคติทางปัญญาที่พบโดยส่วนมาก จะเป็นอคติเพื่อยืนยันที่จะยืนยันความคิดตัวเองไม่ฟังสิ่งอื่น แนวทางการพัฒนาภาพลักษณ์ ของศาลยุติธรรมในสื่อสังคมออนไลน์มี ๒ รูปแบบ ได้แก่ การประชาสัมพันธ์เชิงรุก คือ การเข้าถึงประชาชนโดยใช้กลุ่มแอดมินเข้าโต้ตอบข้อซักถามหรือให้ข้อมูลที่ถูกต้องในคอมเมนต์ ที่ให้ข้อมูลไม่ถูกต้องหรือเป็นเท็จในแพลตฟอร์มที่มีผู้เข้าถึงเป็นจํานวนมาก และการ ประชาสัมพันธ์เชิงรับ คือ การให้ประชาชนผู้สนใจเข้าถึงข้อมูลได้เองจากการมีเว็บไซต์ ศาลยุติธรรมที่ง่ายต่อการเข้าถึง การใช้งาน และการตอบข้อสงสัย

According to a survey, the Court of Justice is the most trusted independent organization. Nevertheless, todayûs widespread use of social media raises doubts about the impact it might have on the image of the Court of Justice from social media users who, in addition to being the recipients, are the messengers at the same time. Therefore, the study of public perceptions on social media engages direct and indirect approaches. The former is to directly distribute questionnaires regarding opinion and attitude to online users, while the latter is to analyze sentiments and cognitive bias of the messages collected from the comments on Facebook pages of the two most popular news agencies within the scope of seven news related to the Court of Justice. The direct method finds that most of the samples have a basic fundamental understanding of the Court of Justice, still many people lack up-to-date information. News and previous information have the most impact on the credibility of the courts. Most online newsreaders choose to ignore other peopleûs comments, or if they opt to read, it is only for studying social trends. According to the indirect method, the commentators critique the actions of individuals or organizations that are the main subject of the news. Their sentiments are often not relevant to the Court of Justice when the news is related to an adjudication or a judgment. However, when some matters concerning judges or the name of a court are the main themes of the news, there will be people who criticize the Court of Justice the most, thus tarnishing the image. The most common cognitive bias is confirmation bias which affirms oneûs thoughts by not listening to others. There are two approaches to improve the Court of Justice image. Firstly, use proactive public relations by reaching people through admin groups to respond to inquiries or misleading messages in comments. Secondly, use passive public relations that allow interested viewers to access the information themselves by providing a central website of the Court of Justice that is easy to access, use and response.