การกลับคําพิพากษาคดี Roe v. Wade เป็นก้าวสําคัญอีกก้าวหนึ่งของศาลสูงสุด แห่งสหรัฐอเมริกา คดีดังกล่าวมีประเด็นปัญหาว่าด้วย การตีความ Due Process of Law ในรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขครั้งที่ ๑๔ ที่ศาลปฏิบัติหน้าที่เกินขอบเขตจนก้าวล่วงบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญในการพิจารณาพิพากษาคดีทําแท้งในอดีต อีกทั้งยังทําให้หลักการของ การถือคําพิพากษาที่มีมาก่อน (stare decisis) บิดเบือนไป คําพิพากษาของศาลในคดี v. Wade ทําให้เกิดบรรทัดฐานที่ไม่สามารถนํามาใช้ในการพิจารณาพิพากษาคดีทําแท้งอื่น ๆ ในภายหลังได้ การใช้อํานาจตุลาการเกินบทบาทหน้าที่ของศาลทําให้เกิดการหลบเลี่ยงหลัก ประชาธิปไตยและลิดรอนสิทธิในการเลือกของผู้หญิงในประเทศจนมีการกล่าวได้ว่าศาลสูงสุดฯ มีหน้าที่ต้องกลับคําพิพากษาในครั้งนี้เพื่อแก้ไขความผิดพลาดในอดีตและคืนอํานาจให้แก่ประชาชน ในคําพิพากษาของศาลประกอบด้วยคําศัพท์ทางกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิในการ ทําแท้งและคําศัพท์ทางการแพทย์เกี่ยวกับการทําแท้งซึ่งมีการถกเถียงอภิปรายกันมาอย่าง ยาวนาน เช่น viability, undue burden และ stare decisis โดยคําเหล่านี้ได้กลายเป็น ประเด็นสําคัญที่นําไปสู่การกลับคําพิพากษาในที่สุด

The Roe v. Wade overruling marks an important turning point of the United States Constitutional rights. The case addresses the misinterpretation of the Due Process of Law in the 14th Amendment Constitution, the extraconstitutional role the Court performed in trying the past abortion cases and distorted the principles of stare decisis. The Courtû judgment on Roe v. Wade leads to the unreliable standard judgment and affects the latter abortion cases. The Courtûs extraconstitutional role short-circuited the democracy doctrine and deprived women in the country of the right to choose. Purportedly, this overruling is the responsibility of the Court to rectify and reinstate the power to its people. In the opinion of the Court, it discussed several legal and medical terms related to abortion and abortion rights, which have been debated for decades such as; viability, undue burden and stare decisis. These terms, finally, became the underlying issues for overruling the preceding judgments.