กระบวนการระงับข้อพิพาททางสัญญาระหว่างบริษัท ไทย - ลาวลิกไนต์ จํากัด กับพวกฝ่ายหนึ่ง กับรัฐบาล สปป. ลาว อีกฝ่ายหนึ่งได้แผ่ขยายไปถึงสามทวีป กว่าจะสิ้นสุด ลงได้ต้องใช้เวลาถึง ๑๑ ปี นับเป็นคดีพิพาทที่มีความสลับซับซ้อน ทุกก้าวย่างของคู่กรณี ในการกําหนดยุทธศาสตร์และสนามรบทางกฎหมายเพื่อผลสําเร็จในการบังคับคําชี้ขาด ของฝ่ายหนึ่งกับการปัดป้องมิให้มีการบังคับคําชี้ขาดของอีกฝ่ายหนึ่งนั้น นับว่ามีความสําคัญ อย่างยิ่ง คดีอนุญาโตตุลาการทุกคดีมีลักษณะจําเพาะในตัวของมันเอง ไม่มีคดีไหนที่สําเร็จ เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์แบบ การศึกษาวิเคราะห์คดีนี้จากคําคู่ความ ข้ออ้าง ข้อถกเถียงและ หลักกฎหมายต่าง ๆ ที่คู่พิพาทใช้อ้างอิง ตลอดจนคําสั่ง คําพิพากษาและความเห็นต่าง ๆ ของคณะอนุญาโตตุลาการและศาลที่เกี่ยวข้องในคดี น่าจะทําให้ทนายความ อนุญาโตตุลาการ และผู้พิพากษาทั่วไปได้รับประโยชน์ทางวิชาการเป็นอย่างมาก สามารถใช้ข้อมูลหรือบทเรียน ที่ได้เป็นแนวทางและเครื่องมือในการออกแบบ ดําเนินการและปรับปรุงกระบวนการ อนุญาโตตุลาการให้มีประสิทธิภาพ สามารถหวังผลได้แน่นอนและประหยัดมากขึ้น

The process of resolving contractual disputes between Thai-Lao Lignite (Thailand) Co., Ltd. et al and the Government of the Lao Peopleûs Democratic Republic extended across 3 continents and took over 11 years to reach its final stage. The case highlights the complexity and the importance of strategic moves made by the parties in navigating the legal battle grounds that they believe would be conducive to successful enforcement of an arbitral award or otherwise preempting such enforcement. Every arbitration proceeding is unique, and none is perfect. The pleadings and arguments made by the parties, as well as the orders and opinions imparted by the arbitration tribunal and the courts in various jurisdictions, can be invaluable guidance and tools for arbitrators, lawyers, and judges across the globe in shaping and enhancing the efficiency, predictability, and economy of international arbitration.